Thailand Techshow

การผลิตน้ำส้มสายชูหมักจากข้าวปลอดภัย

นักวิจัย
ผศ.ดร.ยุวรัตน์ พจน์พิศุทธิพงศ์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

สถานภาพสิทธิบัตร

อยู่ระหว่างยื่นคำขอ

ที่มา ข้อมูลเบื้องต้น ความสำคัญของปัญหา

นํ้าส้มสายชูมี 3 ประเภท คือ นํ้าส้มสายชูหมัก นํ้าส้มสายชูกลั่น และนํ้าส้มสายชูเทียม โดยนํ้าส้มสายชูหมักเป็นนํ้าส้มที่มีรสชาติดี มีกลิ่นหอมจากสารบางชนิดที่เกิดจากกระบวนการหมัก มีสี และสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ (Bioactive compound) ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพตามวัตถุดิบ เช่น แกมม่า-โอไรซานอล เบต้าแคโรทีน ไลโคพีน วิตามินซี วิตามินอี สารในกลุ่มสารประกอบฟีนอล แอนโทไซยานิน และฟลาโวนอยด์ เป็นต้น การนำข้าวปลอดสารพิษมาผลิตน้ำส้มสายชูเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตข้าว ช่วยส่งเสริมการเพาะปลูกให้มากขึ้น หรือแก้ปัญหาราคาในช่วงการขาดเสถียรภาพจากการแข่งขันในตลาดข้าว และยังได้ผลิตภัณฑ์น้ำส้มสายชูหมักที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งมีโอกาสพัฒนาเป็นสินค้าเพื่อการส่งออก นำมาซึ่งรายได้เข้าประเทศ

สรุปและจุดเด่นเทคโนโลยี

น้ำส้มสายชูหมักจากข้าวไรซ์เบอรี่ปลอดภัยที่ได้จากการทดลองนี้เป็นน้ำส้มสายชูอินทรีย์ (organic vinegar) มีความแตกต่างจากน้ำส้มสายชูหมักในท้องตลาด เนื่องจากตรวจพบวิตามินบีหนึ่ง บีสอง และสังกะสี 0.03, 0.05 และ 0.11 มิลลิกรัมต่อ 100 มิลลิลิตร รวมถึงพบสารต้านอนุมูลอิสระ (DPPH) 26.67 mgAA โดยวิตามินบีหนึ่งจำเป็นต่อการทำงานของสมอง ระบบประสาท ป้องกันโรคเหน็บชา วิตามินบีสอง ลดอาการมุมปากเปื่อยหรือปากนกกระจอก (angular stomatitis) ตามองไม่ชัด คันตา มองแสงจ้าไม่ได ถ้าขาดมากเป็นต้อกระจก สังกะสี ช่วยสังเคราะห์โปรตีน สร้างคอลลาเจน ป้องกันผมร่วง กระตุ้นรากผม สารต้านอนุมูลอิสระ (DPPH) ลดอาการของโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน (arterosclerosis) การเกิดโรคมะเร็ง (cancer) ทําใหผิวหนังเกิดรอยเหี่ยวยน (wrinkle) และเกิดเปนจุดสี (lipofuscin spot) น้ำส้มสายชูหมักอื่นๆ ที่พบในท้องตลาดส่วนใหญ่ผลผลิตจากผลไม้ จึงมีพบแต่ปริมาณวิตามินซี

ความร่วมมือที่เสาะหา

เสาะหาผู้รับอนุญาตใช้สิทธิ

สถานภาพของผลงานวิจัย

ต้นแบบระดับ pilot scale ได้ถูกทดสอบในสภาวะทำงานจริง