![]() |
||||||||
นักวิจัย
รองศาสตราจารย์พาวินี กลางท่าไค่ และคณะ
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น |
||||||||
สถานภาพสิทธิบัตร
คำขออนุสิทธิบัตร เลขที่คำขอ 2403000127 ยื่นคำขอวันที่ 16 มกราคม 2567
|
||||||||
ที่มา ข้อมูลเบื้องต้น ความสำคัญของปัญหา
ถ่านกัมมันต์เป็นคาร์บอนรูปแบบหนึ่งที่มีพื้นที่ผิวสัมผัสจำเพาะสูง มีรูพรุนปริมาณมาก มีการนำไฟฟ้าค่อนข้างดี และมีราคาถูก และสามารถประยุกต์ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ตัวดูดซับแก๊ส ตัวดูดซับกลิ่น วัสดุขั้วของอุปกรณ์กักเก็บพลังงาน และวัสดุขั้วของเซลล์แสงอาทิตย์ เป็นต้น ถ่านกัมมันต์สามารถสังเคราะห์ได้จากวัสดุที่มีธาตุคาร์บอนเป็นองค์ประกอบหลัก เช่น วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ได้แก่ ชานอ้อย ฟางข้าว กะลามะพร้าว เปลือกมะพร้าว เป็นต้น
กรรมวิธีการผลิตถ่านกัมมันต์ส่วนใหญ่มักจะใช้สารก่อกัมมันต์จากภายนอก เช่น กรดฟอสฟอริก โพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ และน้ำ ส่งผลให้มีต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น จากการศึกษาพบว่า กะหล่ำปลีประกอบด้วยธาตุจำนวนมาก เช่น คาร์บอน ออกซิเจน โพแทสเซียม แคลเซียม คลอรีน เป็นต้น ซึ่งอาจรวมตัวกันเป็นสารประกอบแคลเซียมคาร์บอเนต โพแทสเซียมคลอไรด์ เป็นต้น โดยสารประกอบเหล่านี้สามารถใช้เป็นตัวก่อกัมมันต์ เพื่อให้เกิดรูพรุนบนพื้นผิวถ่านได้ ผู้ประดิษฐ์จึงได้พัฒนากรรมวิธีผลิตถ่านกัมมันต์จากกะหล่ำปลี ด้วยกระบวนการการก่อกัมมันต์ในตัวทางเคมี |
||||||||
สรุปและจุดเด่นเทคโนโลยี
- กระบวนการผลิตไม่ซับซ้อน ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวก่อกัมมันต์จากภายนอกแบบวิธีเดิม ทำให้มีต้นทุนถูกลง และช่วยเพิ่มมูลค่าของกะหล่ำปลี
- ได้ผลิตภัณฑ์ถ่านกัมมันต์ที่มีความบริสุทธิ์ มีพื้นที่ผิวสัมผัสจำเพาะสูง - มีผลการเปรียบเทียบพื้นที่ผิวสัมผัสจำเพาะกับถ่านกัมมันต์จากงานวิจัยอื่น ๆ 10 ชนิด พบว่าถ่านกัมมันต์ที่ได้จากกรรมวิธีตามการประดิษฐ์นี้ มีพื้นที่ผิวสัมผัสจำเพาะสูงที่สุด โดยมีพื้นที่ผิวสัมผัสจำเพาะ 1,146.51 ตารางเมตรต่อกรัม - เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าวิธีเดิม เพราะไม่ได้ใช้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นแก๊สเรือนกระจกเป็นตัวก่อกัมมันต์ |
||||||||
ความร่วมมือที่เสาะหา
เสาะหาผู้รับอนุญาตใช้สิทธิ
|
||||||||
สถานภาพของผลงานวิจัย
ได้ต้นแบบในระดับห้องปฏิบัติการ
|
||||||||
![]() |
||||||||
เงื่อนไข
เทคโนโลยีต่อรองราคา
|
||||||||
สนใจสอบถามข้อมูล
ศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญา มหาวิทยาลัยขอนแก่น | |
|||||||
|