เครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าวเพื่อใช้ในการปลูกข้าวนาโยน
นักวิจัย  
ผศ.ดร.กันต์ อินทุวงศ์
คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
 
สถานภาพสิทธิบัตร
อยู่ระหว่างยื่นคำขอ
ที่มา ข้อมูลเบื้องต้น ความสำคัญของปัญหา
“นาโยน” เป็นอีกหนึ่งวิธีใหม่ในการทำนาในยุคปัจจุบันซึ่งข้อดีของการทำนาโยน คือการประหยัดเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ต้องสูญเสียไปกับน้ำ ระยะห่างของต้นข้าวที่มีมากกว่าก็ทำให้ข้าวสามารถแตกกอได้ดีกว่า และการเติบโตของต้นกล้าข้าวที่โยนลงไปก็ไม่หยุดชะงักเหมือนนาดำที่ต้องปักต้นกล้า อีกทั้งยังใช้ต้นทุน และแรงงานน้อยกว่า ซึ่งวิถีการทำนาโยนนั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากมากนักเริ่มต้นด้วยการคัดสรรเมล็ดพันธุ์ข้าวตามที่ต้องการ จากนั้นโรยเมล็ดพันธุ์ข้าวลงในหลุมกระบะเพาะกล้า ประมาณหลุมละ 3-5เมล็ด ตามด้วยการร่อนดินลงหลุมให้เต็ม หลังจากนั้นก็ทำการรดน้ำเช้า-เย็นจนต้นกล้าอายุ 15 วัน และทำการเตรียมแปลงนาเพื่อการปลูกโดยการปรับพื้นดินให้สม่ำเสมอโดยให้น้ำในนามีระดับประมาณ 1 เซนติเมตร และควรใส่ปุ๋ยรองพื้นก่อนโยนต้นกล้า 1 วัน ในส่วนการโยนกล้านั้นจะใช้ต้นกล้าประมาณ 60-70 กระบะต่อไร่ จากนั้นคนที่จะโยนกล้าจะต้องหยิบกระบะกล้ามาวางพาดบนแขน แล้วใช้มือหยิบกล้าข้าวหว่าน หรือโยนในแปลงโดยโยนให้สูงกว่าศีรษะ ต้นกล้าจะพุ่งลงโดยใช้ส่วนรากที่มีดินติดอยู่ลงพื้นดินก่อน และหลังจากนั้นประมาณ 3 วัน ต้นข้าวจะสามารถตั้งตัวได้ แล้วก็สามารถทำการเพิ่มระดับน้ำให้อยู่ที่ระดับครึ่งหนึ่งของต้นข้าวหรือประมาณ 5 เซนติเมตร เพื่อการควบคุมวัชพืชซึ่งหลังจากเสร็จภารกิจการปลูกแล้ว
สรุปและจุดเด่นเทคโนโลยี
เครื่องโรยดิน และเมล็ดข้าวสำหรับการเพาะกล้านาโยน คือเครื่องที่มีระบบควบคุมกึ่งอัตโนมัติที่มีอัตราเฉลี่ยของเครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าวที่หยอดลงถาดเท่ากับ 90.46% และมีอัตราความเร็วในการหยอดเมล็ดข้าวต่อถาดเฉลี่ยคือ.0:54.นาทีต่อถาด.
ความร่วมมือที่เสาะหา
เสาะหาผู้รับอนุญาตใช้สิทธิ
สถานภาพของผลงานวิจัย
ได้ต้นแบบในระดับห้องปฏิบัติการ
เงื่อนไข
เทคโนโลยีราคาเดียว
สนใจสอบถามข้อมูล
ผศ.ดร.กันต์ อินทุวงศ์
โทรศัพท์มือถือ 081-7276735
Email inchgun@hotmail.com
คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม

คุณต้องการขอรับถ่ายทอดเทคโนโลยี "เครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าวเพื่อใช้ในการปลูกข้าวนาโยน"